เมื่อเราเปิดตัวรองเท้าคู่แรกของเราที่ใช้โฟม Nike React ในเดือนมิถุนายนปี 2017 เรารู้ว่าคู่นั้นจะพลิกโฉมนวัตกรรม แต่ไม่มีใครใน Nike คาดการณ์ได้เลยว่าโฟม React จะเป็นโฟมที่อเนกประสงค์มาก ทุกวันนี้คุณจะพบโฟมนี้ในรองเท้าหลายรุ่น ตั้งแต่รองเท้าบาสเก็ตบอล วิ่ง กอล์ฟ ไปจนถึงรองเท้าเทรนนิ่ง และโฟมนี้ก็ยังเพิ่มความสบายให้กับรองเท้าไลฟ์สไตล์ที่มีสไตล์ที่สุดของเราอีกด้วย

ตอบสนองได้ดี ทนทาน นุ่มนวล น้ำหนักเบา “ในอดีต นวัตกรรมระบบลดแรงกระแทกอาจให้ประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดในด้านเดียวหรือ 2 ด้าน” Ernest Kim ผู้อำนวยการขั้นสูงฝ่ายรองเท้าวิ่งทั่วโลกของ Nike กล่าว “แต่กับ Nike React นั้น เราเห็นความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญในทุกมิติของระบบลดแรงกระแทกเลยครับ ทั้งด้านการลดทอนแรงกระแทก การส่งแรงกลับ น้ำหนักที่เบา และความทนทานครับ นั่นคือเหตุผลที่เราเรียกโฟมนี้ว่าเป็นโฟมที่ครบสมบูรณ์ที่สุดของเราเท่าที่เคยมีมา”

สิ่งที่ท้าทายเกี่ยวกับโฟมก็คือระบบลดแรงกระแทกที่ทั้งนุ่มนวลและทนทานนั้นทำได้ยาก โดยปกติแล้วจะได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะคุณสมบัติทั้งคู่นี้เข้ากันไม่ได้อย่างสิ้นเชิง แต่เทคโนโลยี Nike React นั้นแตกต่าง โฟมยังคงแข็งแรงและนุ่มนวลหลังผ่านการทดสอบอย่างหนักด้วยเครื่องจักรที่เลียนแบบแรงถูกกระทำจากการใช้งานเป็นระยะเวลานาน

เราพบวิธีที่จะทำให้โฟมนี้นุ่มนวล แต่ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากเกินไป นั่นคือการรวมพอลิเมอร์ จากเทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ (TPE) และเอทิลีนไวนิลอะซิเตต (EVA) เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดังกล่าวที่มีความพิเศษอย่างแท้จริง

เพื่อดูว่ารองเท้าจะช่วยลดการบาดเจ็บได้หรือไม่เมื่อเทียบกับรองเท้าควบคุมการเคลื่อนไหวของเรา เราจึงได้ทำการวิจัยผ่านทาง British Columbia Sports Medicine Research Foundation ที่ซึ่งนักวิ่งทำตามโปรแกรมเทรนนิ่งตามตัวแปรการออกกำลังกาย 12 สัปดาห์ สิ้นสุดด้วยการวิ่งฮาล์ฟมาราธอน และจากผลลัพธ์ที่ได้ เราคิดว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว ในการทดสอบ* นั้น Nike React Infinity Run แสดงอัตราการบาดเจ็บที่ลดลง 52% เมื่อเทียบกับ Nike Structure 22 ซึ่งเป็นรองเท้าควบคุมการเคลื่อนไหวชั้นนำของเรา