ขอแนะนำให้รู้จัก Lil C
เชื่อมั่นในความคิด
หญิงสาวมากพรสวรรค์อายุ 25 ปีอย่าง Lil C ไม่เคยปล่อยให้สื่อกลางมาตีกรอบความคิดสร้างสรรค์ของเธอ ทักษะความสามารถของ Lil C ที่ส่วนใหญ่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตนเองนั้นกว้างขวางครอบคลุมทักษะต่างๆ ทั้งการจัดรายการ การเป็นดีเจ รวมถึงการทำงานในฐานะ A&R (ฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน) ที่คอยส่งเสริมและสนับสนุนนักคิดสร้างสรรค์รุ่นเยาว์เพื่อสร้างซาวด์เพลงใหม่ๆ แนวโพรเกรสซีฟ และ Lil C ก็ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้นำไปเปิดให้ทั้งโลกฟัง
พอเป็นเรื่องการเปิดเพลงแบบที่ Lil C ชอบ ทุกคนเห็นตรงกันว่าเธอจะดื้อรั้นจนไม่ยอมฟังใคร และคงมีดีเจแค่ไม่กี่คนที่เชื่อในตัวเองขนาดนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ความดื้อรั้นนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะ Lil C มีเป้าหมายอันแน่วแน่ที่จะเปิดโอกาสและให้พื้นที่แก่ศิลปินที่เธอเชื่อมั่น ซึ่งกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมดนตรีที่สร้างกำลังใจได้อย่างเหลือล้น
ในฐานะแฟนคลับสโมสร Liverpool FC มาตั้งแต่ลืมตาดูโลก Lil C รู้ซึ้งดีว่าการต้องทดสอบความภักดีครั้งแล้วครั้งเล่านั้นเป็นอย่างไร เพราะอย่างไรเสีย นี่ก็คือสโมสรที่มักจะพลิกกลับมาชนะเสมอเพื่อลบล้างข้อกังขาของทุกคน เวลาที่คนไม่ได้หวังอะไรมากมายจากคุณ แต่คุณกลับทำได้เหนือความคาดหมาย นี่แหละคือนิยามที่แท้จริงของความเข้มแข็ง
Lil C คือใครบางคนที่คุณอยากเก็บไว้ลึกๆ ในใจ เธอมีจิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่หวั่นไหวแม้ใครจะบอกว่า “ไม่” เพราะนั่นไม่ใช่ตัวตนของเธอ เพราะสโมสรของเธอไม่มีคำนี้อยู่ในพจนานุกรม
เดินตามสัญชาตญาณ สร้างเครือข่าย
Lil C เรียนรู้ว่าไม่มีสิ่งใดได้มาโดยง่าย สิ่งใดมีค่า คุณอาจจะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา ในอุตสาหกรรมการทำงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขันของเธอ คนที่จะเป็นจ่าฝูงต้องมีทักษะความสามารถที่หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาสด้วยอย่างที่ Lil C ได้อธิบายไว้ตรงนี้
“ฉันทำ 3 อย่างค่ะ เป็นนักจัดรายการก่อนอันดับแรก เพื่อเรียนรู้การเป็นดีเจแล้วนำมาเปลี่ยนรายการวิทยุที่เคยจัดให้น่าฟังขึ้น ช่วงวัยรุ่น ฉันมักจะรายล้อมด้วยคนจัดงานกับคนโปรโมทงานปาร์ตี้ แต่ตัวเองกลับสนุกไปกับงานอย่างเดียวโดยไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรแบบจริงจัง ต่อมา ช่วงที่กำลังเรียนหนังสือ ฉันได้ทำรายการวิทยุของนักเรียน ตอนนั้นเองเป็นโอกาสที่ฉันได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในวัฒนธรรม ในกิจกรรมของนักเรียน ในวิถีชีวิตตอนกลางคืน มีเรื่องราวเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และนั่นเป็นก้าวแรกสู่อาชีพการจัดรายการของฉันค่ะ”
“ดนตรีคือสิ่งฉันหลงใหลและยึดเป็นงานอดิเรกมาตลอดค่ะ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะทำเป็นอาชีพ ฉันไม่เคยคิดว่า “ต้องกลายเป็นนี้ อยากทำแบบนั้น...” ชีวิตของฉันไม่ใช่อย่างนั้น นี่เลยเป็นสาเหตุว่าทำไมทุกอย่างที่ลงเอยแบบนี้ การที่ฉันได้เป็น A&R ถึงได้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ”
เพราะ Lil C รักดนตรีจากใจจริง และได้ลงเอยด้วยการฝึกงานที่ค่ายเพลง Young Turks ผ่านคนรู้จัก “ฉันว่าที่มีโอกาสได้ไปฝึกงานที่นั่นคงเป็นเพราะเพื่อนที่เรียนด้วยกันเห็นว่า ฉันมีความชอบดนตรีอย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง ซึ่งความชอบนี้มาจากความรู้สึกจริงๆ ค่ะ”
“หน้าที่ของฉันในตอนนี้คือการเฟ้นหาศิลปินและคนที่มีพรสวรรค์ ซึ่งคนเหล่านี้อาจไม่ได้มีสตูดิโอเป็นของตัวเองหรือขาดความรู้ความชำนาญในการลงมือทำแต่เป็นผู้ที่มีมุมมองแบบศิลปิน”
ในฐานะคนหนึ่งที่มีความสร้างสรรค์มาโดยกำเนิด ศิลปะและผลงานของ Lil C ให้เกียรติและความเข้าใจผู้อื่นแฝงอยู่ในนั้นด้วย เธอมีความสามารถที่จะส่งต่อความรู้ความเข้าใจของตัวเองไปยังคนอื่นๆ ในแบบที่ได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จด้านหนึ่งของเธอ
“แล้วจากนั้นฉันก็ผันตัวมาเป็นดีเจค่ะ ฉันเปิดแต่เพลงที่ตัวเองชอบ และจะไม่เปิดเพลงที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่คิดจะทำแบบนั้นเลยค่ะ ฉันเลยรู้สึกค่อนข้างดีที่ได้สร้างความสัมพันธ์กับคนที่มาฟังเพลงของฉัน ฉันพยายามสนับสนุนความต้องการของคนเหล่านั้นด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดตัวหรือเวลาของสตูดิโอ เพราะปัจจัย 2 อย่างนี้ในอุตสาหกรรมเป็นสิ่งที่ฝังแน่นและมีผลต่อการขายสินค้าเฉพาะแนว” Lil C ชี้ว่านั่นคือการสนับสนุนด้านเล็กๆ ของชุมชนและเป็นการช่วยเหลือคนที่มีความตั้งใจจริงให้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ “นี่เป็นแนวทางของฉันค่ะ ในเรื่องทั้งหมดนี้”
“ความเข้มแข็ง” ในนิยามแบบสเกาซ์
เมื่อเป็นเรื่องของสโมสร Liverpool FC ความเชื่อมั่นของ Lil C ไม่เคยหวั่นไหว ผลงานของเธอ ดนตรีของเธอ ล้วนแฝงความแน่วแน่ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณความไม่ย่อท้อของสโมสร “ในฐานะแฟนคลับทีม Liverpool ฉันรู้สึกได้อย่างเต็มเปี่ยมถึงความเข้มแข็งและจิตวิญญาณของ “การก้าวข้ามอุปสรรคเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นดังหวัง” ค่ะ ศักยภาพที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มปรากฏ เราเพิ่งจะบรรลุเป้าหมายที่เราทั้งคาดหวังและรอคอยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฉันว่าเรื่องนี้อยู่ที่มุมมองต่อความคาดหวังนี้แหละค่ะ เวลาที่คนไม่ได้หวังอะไรมากมายจากคุณ แต่คุณกลับลุกขึ้นรับคำท้าแล้วสร้างผลงานที่เหนือความคาดหมาย นั่นแหละค่ะคือความหมายที่แท้จริงของความเข้มแข็ง ศิลปินต้องพบเจอเรื่องแบบนี้อยู่ตลอด คนอาจจะบอกคุณว่า “ไม่ผ่าน...ยังไม่ดีพอ ไม่เอา...ใครบอกให้ทำแบบนี้ ไม่มีทาง...เพลงแบบนี้ขายไม่ออกแน่นอน แต่คุณต้องเผชิญหน้ากับความกังขานั้นแล้วพิสูจน์ว่าทุกคนคิดผิดค่ะ”
Lil C ออกความเห็นว่าเมื่อมองระหว่างดนตรีกับกีฬา มีเส้นขนานหลายเส้นที่ลากคู่กันได้ “ในโลกกีฬา นักกีฬาคือผู้มีพรสวรรค์ ในโลกดนตรี ศิลปินก็คือผู้มีพรสวรรค์ค่ะ พรสวรรค์ไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล จะมีหรือไม่มีไม่เกี่ยวว่าต้องมีคนมายอมรับก่อนหรือไม่”
Lil C ในฐานะแฟนคลับทีม Liverpool ต้องกล้ำกลืนยอมรับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง ความคาดหวังต้องเปลี่ยนเป็นความผิดหวังปีแล้วปีเล่า คุณคงคาดหวังให้เธอถอดใจ แต่ Lil C กลับยังคิดบวกแม้ในเวลาที่สโมสรของเธอจะพยายามต่อสู้เพื่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็ตาม
“ที่ต้องทำก็แค่ประเมินสถานการณ์ใหม่ค่ะ อย่าไปสนใจความคิดความคาดหวัง ทิ้งมันไปเลย แล้วดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคนเก่งๆ มาอยู่รวมกัน”
มีเท่าไหร่เอาออกมาให้หมด
“ประเด็นอยู่ที่พลังค่ะ ว่าจะใส่ลงไปได้แค่ไหน ในฐานะดีเจ ถ้าคุณเรียกพลังงานออกมาได้แบบ “ใช่เลย มีความสุขมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้” คนอื่นจะได้รับพลังงานนี้ด้วย เวลาคุณเห็นนักเตะอยู่บนสนาม ทำท่าทางอยากถอดเสื้อทีมเต็มทน เดินคอตก ไม่อยากอยู่บนสนาม ไม่อยากเล่นอีกต่อไป คุณต้องบอกว่า “ให้ออกจากสนามเลย” เพราะคนเหล่านั้นถอดใจแล้ว แฟนๆ รู้สึกได้ เพื่อนในทีมรู้สึกได้ โค้ชรู้สึกได้ค่ะ”
พลังงานจะกระจายไปหาคนรอบๆ ตัว เป็นสิ่งที่ส่งถึงกันได้ “ถ้ามีใครรู้สึกไม่พร้อม ไม่เป็นไร” Lil C เชื่อเสมอว่าไม่มีใครเป็นตัวของตัวเองได้ตลอดในวันที่ต้องพร้อมที่สุด และสุดท้าย ความกังขาจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนมุมมองของคุณต่อคนอื่นและต่อทีมตัวเอง สรุปคือ ความกังขาทำให้เกิดความกังขาต่อไปเป็นทอดๆ
“อย่าให้ความคาดหวังมีผลกับการมองคนอื่น ถ้าคนคนนั้นไม่พร้อม ก็แค่พาออกจากสนาม เดี๋ยวคนคนนั้นก็จะกลับมาสู้อีกครั้ง เพราะยังไงนี่ก็คือสโมสร Liverpool FC”
Lil C ไม่ยอมให้ความคาดหวังของคนอื่นมาเป็นอุปสรรคในความทะเยอทะยานของเธอหรือในมุมมองที่เธอมีต่อใคร สำหรับ Lil C แล้ว สิ่งสำคัญคือการเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองและพาคนที่คิดเหมือนกับเธอร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน
เลือกซื้อคอลเลกชัน Liverpool FC ได้ด้านล่าง