วิธีรับมือเมื่ออาการปวดเมื่อยขณะตั้งครรภ์ทำให้คุณช้าลง

นี่ล่ะ Nike (M)

อาการไม่สบายตัวในขณะที่เด็กตัวน้อยกำลังเติบโตอยู่ในตัวคุณนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่คุณไม่ควรต้องทรมานกับอาการเหล่านี้ ต่อไปนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น และการออกกำลังกายจะช่วยลดอาการได้อย่างไร

อัพเดทล่าสุด: 30 มิถุนายน 2565
ใช้เวลาอ่าน 7 นาที
  • ช่วงที่คุณตั้งครรภ์ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะจะผลักดันตัวเองให้ถึงขีดสุด แต่การไม่ทำอะไรเลยก็อาจทำให้อาการปวดเมื่อยแย่ลงได้
  • การเสริมความแข็งแรงช่วงลำตัวและการยืดกล้ามเนื้อช่วงสะโพกอาจช่วยลดอาการตึงในบริเวณที่มักจะปวดเมื่อยได้
  • ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือนักกายภาพบำบัดของคุณเสมอ หากอาการปวดเมื่อยทำให้คุณใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากขึ้น


อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม…

*เนื้อหานี้ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ แต่ไม่ใช่เพื่อการวินิจฉัย รักษา หรือให้คำแนะนำเฉพาะทางการแพทย์ จึงควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณอยู่เสมอเกี่ยวกับวิธีรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยทั้งก่อน ระหว่าง และหลังตั้งครรภ์

สำหรับนักกีฬาผู้ทุ่มเทที่คาดหวังว่าจะวิ่ง 10 ไมล์ได้ตลอด 9 เดือนที่ตั้งครรภ์ และเอาจริงๆ นะ อาการเจ็บและปวดเมื่อยในช่วงก่อนคลอดก็เป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์สำหรับแทบทุกคนที่ตั้งครรภ์นั่นแหละ ทีนี้คำถามก็คืออาการเหล่านี้มีสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีใดที่จะช่วยให้คุณแอ็คทีฟอยู่เสมอแม้ว่าสภาพร่างกายจะหน่วงคุณไว้ก็ตาม

สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ ไม่มีวิธีเคลื่อนไหวระหว่างตั้งครรภ์ที่เหมาะสำหรับทุกคน (ที่จริงคือไม่เคยมีหรอก ไม่เกี่ยวว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า) เพราะแต่ละวันและแต่ละคนนั้นต่างกัน หากอาการเจ็บของคุณส่งผลกระทบต่อกิจกรรมที่ทำ การนอน หรือการทำงาน คุณก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์ พยาบาลผดุงครรภ์ หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อที่เขาจะช่วยให้คุณรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและจะจัดการกับอาการเหล่านี้ได้อย่างไร Laurel Proulx, DPT, PhD นักกายภาพบำบัดด้านสุขภาพกระดูกเชิงกรานที่ Colorado Springs และผู้ก่อตั้ง FEM Physical Therapy กล่าว

แต่ถ้าเจอปัญหาปวดเมื่อยเป็นประจำซึ่งเกี่ยวเนื่องกับหน้าท้องที่ขยายขึ้นละก็ คุณไม่จำเป็นต้องหยุดออกกำลังกายหรอก ตราบใดที่คุณรู้จักปรับเปลี่ยนเมื่อตัวเองรู้สึกไม่ดี ความจริงแล้ว การออกกำลังที่ถูกต้องอาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ด้วยซ้ำ และถ้าจะให้ดีเลยก็คือช่วยให้ร่างกายคุณฟิตอยู่เสมอ "บ่อยครั้งที่ผู้ตั้งครรภ์อาจกลัวการออกกำลังกายเพราะเกรงว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ แต่อันที่จริงแล้วการไม่ทำอะไรเลยก็อาจจะทำให้สุขภาพเราแย่ลงได้" Ann Nwabuebo, DPT นักกายภาพบำบัดด้านสุขภาพกระดูกเชิงกรานที่ฟิลาเดลเฟียและผู้ก่อตั้ง Body Connect Physical Therapy กล่าว

ถ้ากำลังรู้สึกไม่สบายตัวแต่ไม่แน่ใจว่าร่างกายต้องการอะไรละก็ ลองอ่านคำแนะนำเหล่านี้ดู

วิธีรับมือกับอาการปวดและเจ็บระหว่างตั้งครรภ์ด้วยการเคลื่อนไหว โดยผู้เชี่ยวชาญ

อาการปวดท้องน้อย

สิ่งที่เกิดขึ้น: อาการปวดบริเวณท้องน้อย หรือความรู้สึกปวดบริเวณกระดูกหัวหน่าว ก้นกบ หลังส่วนล่าง หรือสะโพกไม่ต่างอะไรจากอาการปวดอื่นๆ ระหว่างตั้งครรภ์ คือเป็นผลจากความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของคุณ เคยสังเกตไหมว่าตัวเองเดินขาถ่างขึ้น ตามที่ Proulx กล่าวไว้ นั่นเป็นเพราะร่างกายของคุณปรับเข้ากับมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นด้วยการขยับจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายมาด้านหน้า ทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกเชิงกรานในแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม

นอกจากนี้ กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวส่วนลึกและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานยังต้องทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อรองรับหน้าท้องที่ขยายขึ้น Proulx กล่าว ทั้งหมดนี้เมื่อบวกกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเนื้อเยื่ออ่อนก็อาจทำเอาร้อง "โอ๊ย" ได้

วิธีรับมือ: การเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อที่รองรับกระดูกเชิงกราน เช่น กล้ามเนื้อบั้นท้ายและกล้ามเนื้อสะโพก เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดแรงที่กดลงมา Proulx กล่าว การออกกำลังกายด้วยท่าอย่างสควอท บริดจ์ และลันจ์จะช่วยให้มีกล้ามเนื้อบั้นท้ายที่แข็งแกร่ง เธอกล่าว ส่วนท่าเหยียดไปด้านข้างก็ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหมุนข้อสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหมุนขาออกด้านนอกและช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานทำงานได้ตามปกติ

อาการปวดหลัง

สิ่งที่เกิดขึ้น: ตามที่ Nwabuebo กล่าวไว้ ผู้ตั้งครรภ์อาจรู้สึกปวดหลังบริเวณใดก็ได้ แต่อาการปวดหลังด้านล่างและอาการปวดกระเบนเหน็บ (หรือที่มักเรียกว่า SI) ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณที่กระดูกสันหลังส่วนล่างมาบรรจบกับกระดูกเชิงกรานนั้นเป็นอาการปวดที่พบได้มากที่สุด ทำไมน่ะหรือ Nwabuebo กล่าวว่า ส่วนหนึ่งก็เพราะเมื่อกล้ามเนื้อรอบๆ ลำตัวและกระดูกสันหลังต้องทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นที่หน้าท้อง กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็อาจจะล้าได้ (เราเองก็เช่นกัน)

คุณอาจโทษได้ว่าอาการปวดหลังส่วนหนึ่งก็มาจากท่าทางที่เปลี่ยนไปด้วย เพราะการที่จุดศูนย์ถ่วงขยับไปด้านหน้าอาจทำให้หลังของคุณโค้งมากขึ้น Proulx กล่าว บางคนเก็บก้นกบเพื่อปรับหลังมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้หลังโค้งน้อยลง Proulx กล่าว ไม่ว่าท่าทางแบบไหนก็สามารถเปลี่ยนปริมาณแรงกดหรือการพยุงหลังส่วนล่างได้

วิธีรับมือ: ตามที่ Nwabuebo กล่าวไว้นั้น วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดอาการปวดหลังคือลองใช้ท่าทางเคลื่อนไหวเพื่อยืดกล้ามเนื้อและค่อยๆ เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เช่น ท่าแมวและท่าวัว ท่าเด็กหมอบ หรือท่านกและท่าสุนัข นอกจากนี้ก็ควรออกกำลังกายโดยเน้นที่การเสริมความแข็งแรงให้แกนกลางลำตัวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวส่วนลึกที่แข็งแรงจะช่วยรองรับหน้าท้องที่ขยายขึ้นและลดแรงกดที่หลังส่วนล่างด้วย Proulx กล่าว เธอชอบท่า Pallof Press เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นการดันเชือกหรือสายเคเบิลออกจากอกไปข้างหน้าตรงๆ โดยที่แกนกลางลำตัวจะต้องคอยต้านไม่ให้ลำตัวหมุนไปหาจุดยึดที่อุปกรณ์ (ค้นหาในกูเกิลเกี่ยวกับการออกกำลังกายวิธีนี้จากเทรนเนอร์ที่ได้รับการรับรองหรือเทรนเนอร์ส่วนตัว)

Proulx ยังแนะนำด้วยว่าผู้ที่มีอาการปวดหลังควรสวมกางเกงปั่นจักรยานขาสั้นเอวสูงหรือเลกกิ้งรัดกล้ามเนื้อเพื่อช่วยกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้อ่อนล้า โดยให้หาตัวที่ขอบเอวช่วยพยุงหน้าท้อง แต่ว่าใส่แล้วคุณก็ยังคงหายใจได้สะดวก (ใช่ มันมีนะ!)

อาการปวดบริเวณ Round Ligament หรือเอ็นยึดมดลูก

สิ่งที่เกิดขึ้น: เอ็นยึดมดลูกเป็นโครงสร้างที่มีลักษณะเหมือนเชือกที่ยึดส่วนบนของมดลูกไว้กับด้านในของขาหนีบทั้งสองข้าง การเจริญเติบโตของเด็กจะไปยืดเอ็นยึด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกหรือเจ็บแปลบที่ขาหนีบ ช่องคลอด หรือสะโพกด้านหน้า Nwabuebo กล่าว "อาการนี้มักจะเกิดขึ้นขณะหมุนตัวหรือเปลี่ยนท่าเพราะท้องที่นูนออกด้านหน้าเคลื่อนที่เร็วกว่าที่เอ็นยึดจะยืดตามได้" Proulx อธิบาย

วิธีรับมือ: การพยุงบริเวณหน้าท้องก่อนที่จะหมุนตัวหรือลุกขึ้นยืนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บแปลบได้ Proulx กล่าว เธอแนะนำให้ "อุ้ม" หน้าท้องโดยการแขม่วกล้ามเนื้อหน้าท้องหรือแม้แต่ใช้มือยกหน้าท้องขึ้นก่อนที่จะหมุนตัว แล้วจึงขยับตัวโดยให้ไหล่และสะโพกอยู่ในแนวเดียวกัน

การยืดกล้ามเนื้อข้องอของสะโพกก็ช่วยได้เช่นกัน ลองนอนหงายบนเตียงโดยงอเข่าทั้งสองข้าง สมมติว่าคุณรู้สึกปวดที่ด้านขวา ให้นอนใกล้กับขอบเตียงด้านขวาและห้อยขาขวาออกจากขอบเตียง หายใจเข้าและออกลึกๆ ประมาณ 30 วินาที ในขณะเดียวกันคุณจะรู้สึกว่าสะโพกขวาด้านหน้าของคุณค่อยๆ ยืด ถ้ายังไม่พอ Nwabuebo แนะนำให้ยืดกล้ามเนื้อให้มากขึ้นโดยดึงเข่าซ้ายเข้าหาหน้าอก เปลี่ยนข้างและทำซ้ำตามต้องการ


แล้วกิจวัตรการออกกำลังกายจริงๆ ของคุณล่ะ แม้ว่าการพักผ่อนจะไม่ได้เป็นยาดีที่สุดสำหรับอาการปวดระหว่างการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะฝืนออกกำลังกายเช่นกัน Proulx กล่าว ลองลดความหนักหน่วง ระยะเวลา และระยะการเคลื่อนไหว (แม้ว่าในใจคุณอยากจะใส่เต็มที่ก็ตาม) เพื่อให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้น Proulx กล่าว

ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร คอยฟังเสียงร่างกายของคุณไว้ ถ้าหากจะมีกฎอะไรสำหรับการตั้งครรภ์แล้วละก็ นี่คือกฎข้อนั้น และต้องหยุดทุกครั้งที่รู้สึกไม่ดี การออกกำลังควรจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเสมอ ไม่ใช่แย่ลง และการตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เรียบเรียงโดย Ashley Abramson
ภาพถ่ายโดย Vivian Kim

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

เข้าแอพ Nike Training Club เพื่อดูคำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายเพิ่มเติม รวมถึงการออกกำลังกายแบบมีเทรนเนอร์และมีผู้เชี่ยวชาญรับรอง ถ้าหากคุณต้องการเลกกิ้งเอวสูงตัวใหม่หรืออุปกรณ์กีฬาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อื่นๆ คุณสามารถซื้อที่ Nike (M) คอลเลกชัน

เผยแพร่ครั้งแรก: 19 พฤษภาคม 2565