วิธีจดบันทึกสีและมองดูโลกในมุมที่ต่างออกไป

นวัตกรรม

ทำจิตใจให้โล่ง เชื่อมโยงกับสิ่งรอบตัว และขัดเกลาความคิดสร้างสรรค์ด้วยกิจกรรมประจำวันง่ายๆ ที่ดีไซเนอร์ Nike ทั้ง 4 คนจะมาแนะแนวทางให้ดูกันว่าทำอย่างไร

อัพเดทล่าสุด: 3 มกราคม 2565

ใช้เวลาอ่าน 7 นาที

“เรียนรู้โดยปฏิบัติจริง” คือซีรีส์ที่คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคจากการลงมือทำจริงกับนวัตกรผู้เชี่ยวชาญ

“ว่ากันว่าสีเป็นอีกภาษาเลยค่ะ” Jaana Beidler กล่าว “เป็นภาษาที่ไม่มีคำพูดอะไร ที่เชื่อมถึงสัญชาตญาณและความคิดเราได้อย่างลึกซึ้ง สื่อถึงอารมณ์ที่หลากหลาย”

สีเป็นภาษาที่ Jaana ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายดีไซน์สีที่ Nike ใช้สื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว และยังเป็นภาษาที่เธอยังอยากใช้พูดคุยกับทีมที่สนิทแน่นแฟ้นกันต่อไปเรื่อยๆ หลังจากที่เริ่มทำงานระยะไกลเนื่องจากมีการระบาดใหญ่ทั่วโลก เมื่อได้อ่านว่าการจดบันทึกนั้นมักจะช่วยให้ผู้คนตกผลึกในช่วงเวลาที่ลำบากและวิกฤตได้ Jaana จึงได้ไอเดียที่จะทำแบบเดียวกัน… แต่ดัดแปลงมาให้เป็นในแบบของเธอเอง

“ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยเก่งเรื่องคำพูดเท่าไหร่ค่ะ ส่วนตัวแล้วฉันคิดออกมาเป็นสีมากกว่า” Jaana กล่าว “แทนที่จะจดบันทึกประจำวัน การจดบันทึกสี [อย่างสม่ำเสมอ] ดูจะเป็นอะไรที่ได้ผลกับเรามากกว่า” ดังนั้น Jaana จึงชวนสมาชิกในทีมมาเริ่มบันทึกภาพต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่โดดเด่นสะดุดตา ซึ่งพวกเขาก็เริ่มมองเห็นความงดงามเล็กๆ ที่สอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันรอบๆ บ้านและในละแวกที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นป้ายจราจรเด่นมองเห็นได้ง่ายที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ดอกไม้สีชมพูจัดจ้านที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา สีน้ำเงินและสีเขียวสดใสของสนามเทนนิสและสนามฟุตบอลที่ว่างเปล่าและไม่มีใครใช้งาน และอื่นๆ อีกมากมาย

ชมวิดีโอเพื่อเรียนรู้วิธีจดบันทึกสีจาก Jaana และดีไซเนอร์ Nike คนอื่นๆ รวมถึงฟังประโยชน์ทางอารมณ์และจิตใจที่จะได้จากการทำกิจกรรมสร้างสรรค์นี้ได้ที่ด้านบน ดูแนวทางไปทีละขั้นตอน ตัวอย่างการบันทึกจากกลุ่ม และเทมเพลตที่จะช่วยให้คุณเริ่มจดบันทึกสีด้วยตัวเองได้ที่ด้านล่าง

แนวทางการจดบันทึกสีทีละขั้นตอน

ขั้นที่ 1: สังเกต

เริ่มจากการมองดูรอบตัวด้วยความอยากรู้และความตั้งใจ “การลองสังเกตรูปทรง เนื้อสัมผัส สีสันและการที่สิ่งต่างๆ อยู่รวมกัน… [เป็นอะไรที่] แทบจะเหมือนการฝึกสมาธิเลยค่ะ” Nicola Trigg กล่าว เธอคือผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายดีไซน์ที่ Nike และเพื่อนนักจดบันทึกสี

ว่าแล้วก็ลองออกไปเดินเล่น ค่อยๆ ใช้เวลา และอย่ามัวแต่ไปเสาะหาอะไรที่ยิ่งใหญ่เกินไป เพราะนี่เป็นเรื่องของการทำใจให้ปลอดโปร่ง การได้เห็นรายละเอียด และการเปิดรับความรู้สึกและสิ่งรอบตัว “[สิ่งนั้น] อาจเป็นอะไรเล็กๆ อย่างใบไม้บนพื้น หรือเมฆก้อนใหญ่บนท้องฟ้า หรือการที่ทุกคนมีตู้จดหมายแปลกๆ หน้าบ้านก็ได้ค่ะ” Nicola เล่า

ขั้นที่ 2: บันทึก

ขั้นต่อไปคือการบันทึกสิ่งที่เจอ “เราทุกคนถ่ายภาพกันเยอะมากอยู่แล้ว จึงแน่นอนว่าคุณสามารถใช้กล้องมือถือได้ แต่การเลือกใช้วิธีอนาล็อกมากๆ ก็สนุกเหมือนกันนะคะ” Jaana บอก “คุณสามารถเก็บสิ่งที่คุณเจอระหว่างทาง แล้วนำมาเก็บไว้ในสมุดบันทึกเพื่อจะได้ดูมันจริงๆ ให้มันเป็นของจริงที่จับต้องได้”

หรือถ้าอยากได้ไอเดียอื่นๆ ก็ลองพกสมุดสเก็ตช์ วาดสิ่งที่เห็นแล้วระบายสีลงบนหน้ากระดาษได้ Chiyo Takahashi ผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายดีไซน์ที่ Nike อีกคนแนะนำ “ฉันว่าไม่มีวิธีไหนถูกหรือผิดหรอกค่ะ” เธอกล่าว

ระหว่างการถ่ายทำ Jaana, Chiyo, Courtney และ Nicola เป็นสมาชิกของทีมดีไซน์สีของ Nike ซึ่งรับผิดชอบการสำรวจโลกและถ่ายทอดเทรนด์ในสังคมออกมาเป็นเฉดสีประจำซีซั่นสำหรับรองเท้า เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ของ Nike แม้จะมีบางคนที่ย้ายไปรับตำแหน่งหน้าที่อื่นที่ Nike แล้ว แต่ทฤษฎีสีก็จะยังคงเป็นความชื่นชอบที่คงอยู่ไปตลอดชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ขั้นที่ 3: นิยาม

พอได้รูปหรือวัตถุแล้ว ให้สร้างเฉดสีโดยการเลือกแต่ละสีที่ดึงดูดความสนใจ คุณสามารถใช้อุปกรณ์ดั้งเดิมอย่างปากกามาร์กเกอร์ สี ดินสอสี หรือใช้วิธีดิจิทัลบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ ผ่านการใช้แอพที่มีเครื่องมือดูดสีก็ได้

ความมหัศจรรย์อยู่ที่สิ่งที่ดึงดูดสายตากับเมาส์ของคุณ Chiyo กล่าว “สีของแต่ละจุดต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับว่าคุณคลิกตรงไหน จึงต้องใช้สัญชาตญาณและสิ่งที่คุณรู้สึกว่าใช่ ที่จะให้ข้อสรุปของสิ่งที่คุณมองเห็นอยู่ได้ เป็นขั้นตอนการปรับแก้ที่จำเป็นต้องมีแน่นอนค่ะ”

“สำหรับฉัน มันแทบจะเหมือนการวิเคราะห์และท้าทายไอเดียตัวเองเลยค่ะ” Jaana เสริม “ฉันสังเกตได้หลังจากผ่านมาหลายปีว่าตัวเองมักจะเอนเอียงไปหาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ฉันพยายามจะออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองโดยการเลือกสีนอกเหนือจากสีที่ปกติแล้วฉันจะเลือก”

ต่อไป ตั้งชื่อสีตามประสบการณ์และความรู้สึกของคุณ ซึ่งเป็นช่วงที่สนุกสำหรับ Courtney Dailey รองประธานฝ่ายดีไซน์สินค้าที่ Nike “[นี่เป็น] วิธีที่จะได้เล่นซนบ้างน่ะค่ะ” เธอกล่าว ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ จากกลุ่มก็มี Closed Down Brown, Rotting Rainbow Chard และ Plastic Flamingo Pink เป็นต้น

ขั้นที่ 4: คิดทบทวน

ขั้นสุดท้ายคือการปล่อยความคิดของคุณออกมา สีพวกนี้ทำให้คุณนึกถึงอะไร เห็นแล้วรู้สึกยังไง ตอนนั้นคุณคิดอะไรในใจบ้าง จากประสบการณ์ของ Jaana และคนอื่นๆ ขั้นตอนนี้เป็นช่วงที่จะเกิดการงอกงามและทำให้รู้จักตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

“ฉันคิดว่ามันช่วยเสริมการสำรวจความคิดของตัวเองอีกขั้น” Chiyo บอก เธอทึ่งกับสีเบจทื่อของชั้นสินค้าโล่งในร้านขายของชำเมื่อช่วงที่เริ่มมีการระบาดใหม่ๆ “การจดบันทึกมันช่วยให้ [ฉัน] ได้ตกผลึกสิ่งที่ฉันรู้สึกในช่วงเวลานี้ ช่วยเพิ่มการตระหนักรู้ถึงโลกรอบตัว [และความสามารถในการ] ใฝ่รู้และเปิดใจให้กว้างมากยิ่งขึ้น”

รับแรงบันดาลใจจากหน้าการบันทึกด้านล่าง…

…เสร็จแล้วก็มาจดบันทึกสีของคุณเองกัน

ข้อคิดที่สำคัญที่สุดจากสมาชิกในทีมคือให้จดบันทึกในแบบของตัวเอง ไม่ว่าสิ่งที่สะดุดตาคืออะไร ไม่ว่าจะอยากบันทึกแบบไหน ความคิดหรือความรู้สึกที่นึกถึงตอนทบทวนเป็นเช่นไร ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวคุณ

ใช้การจดบันทึกเป็นโอกาสในการคลายเครียด พร้อมกับใช้ความคิดสร้างสรรค์และสวมบทบาทนักสำรวจ การที่มันไม่เกี่ยวข้องกับงานหรือกำหนดส่งใดๆ เป็นสิ่งที่ทำให้การจดบันทึกสีเป็นอะไรที่พิเศษและสำคัญกับ Courtney “มันคือความคิดสร้างสรรค์ เพื่อความคิดสร้างสรรค์ แค่นั้นเลยค่ะ” เธอกล่าว

นี่คือเทมเพลตเพื่อให้คุณได้เริ่มลอง หรือจะทำเองก็ได้ เพราะไม่มีวิธีการจดบันทึกสีวิธีไหนถูกวิธีไหนผิดอยู่แล้ว

(หมายเหตุ: PDF มีเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น)

ดาวน์โหลด PDF

ภาพยนตร์โดย Azsa West
เรียบเรียงโดย Brinkley Fox

รายงานเมื่อ พฤศจิกายน 2020

เผยแพร่ครั้งแรก: 28 ธันวาคม 2564