3 วิธีในการอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น
การโค้ชและโภชนาการ
โดย Branden Collinsworth
พักใจจากเรื่องในชีวิตที่ผ่านเข้าออกทุกวันเพื่อเรียกสติกลับเข้าหาตัว
ทุกวันนี้เป็นเรื่องง่ายเหลือเกินที่เราจะสูญเสียความสามารถในการจดจ่ออยู่กับสิ่งต่างๆ เรากำลังต่อสู้กับข้อมูลที่ไหลทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สถานการณ์โลกปัจจุบัน งานที่ทำ เพื่อนฝูง ไปจนถึงหน้าจอต่างๆ สิ่งที่ถาโถมใส่เราอาจทำให้รู้สึกล้นหลามเกินต้านและเป็นเหตุให้เราสูญเสียการรับรู้ช่วงเวลาในปัจจุบันไป
โชคยังดีที่พอจะมีเครื่องมือฝึกความสงบตั้งอยู่ในสติง่ายๆ อยู่ ซึ่งจะช่วยให้คุณกลับมารับมือกับเรื่องต่างๆ ได้ ทั้งยังรู้สึกสงบและเปี่ยมไปด้วยพลังมากกว่าเดิมในทันที หากมีครั้งถัดไปที่คุณต้องการตั้งสติหรือมีความคิดที่เฉียบแหลม ก็ให้ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปทำดูสักข้อ
- กำหนดลมหายใจ 1 นาที ผมเน้นย้ำเรื่องการหายใจกับลูกค้าผมหลายคนอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ครับ การหายใจเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะเปลี่ยนทัศนคติคุณได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งในโลกที่เรากำลังปรับตัวเข้าหาชีวิตธรรมดารูปแบบใหม่ การทำอะไรง่ายๆ อย่างการหายใจนั้นก็ยิ่งทำให้รู้สึกดี ทั้งยังก่อให้เกิดผลลัพธ์ได้มาก ลองใช้เวลา 1 นาทีเพื่อหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกยาวๆ อย่างละประมาณ 5 วินาที จดจ่ออยู่กับเพียงลมหายใจและเสียงของอากาศที่ไหลผ่านเข้าออกนะครับ
- เชื่อมต่อกับตัวเองอีกครั้ง การแจ้งเตือนและข้อมูลข่าวสารที่หลั่งไหลเข้าหาตัวเราอย่างต่อเนื่องจากทุกทิศทางแทบตลอดทั้งวันนั้นเป็นเรื่องที่อาจส่งผลเสียได้ แต่ข่าวดีก็คือเรายังเลือกที่จะปิดสวิตช์และชาร์จแบตฯ ตัวเองได้เสมอครับ ลองตัดการเชื่อมต่อจากเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดแล้วใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อจดจ่ออยู่กับตัวเองดู จับสัมผัสถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวคุณ ทั้งกลิ่น เสียง สี แล้วอยู่กับเพียงปัจจุบัน แม้จะฝึกความสงบตั้งอยู่ในสติในลักษณะนี้ด้วยเวลาไม่กี่นาที แต่ก็จะทำให้เกิดความสงบและเรียกคุณกลับมาสู่ปัจจุบันได้ทันทีเลยครับ
- ย้ำคำเรียกพลัง การพูดความตั้งใจของตัวเองออกมาดังๆ จะช่วยเพิ่มพลังได้ทันทีและนำคุณกลับมาสู่ปัจจุบันได้ครับ เวลาที่ผมต้องการตั้งสติ ผมจะท่องคำว่า “All in on all in.” (ทุ่มเต็มที่ ทุ่มให้สุด) ซ้ำไปมา สำหรับผมแล้วคำนี้หมายความว่าเวลาถึงจุดที่หมดแรงและอยากยอมแพ้ ทั้งในเวลาเทรนนิ่งหรือเวลาฝึกโยคะ กับธุรกิจของผมหรือแม้แต่กับคนที่ผมรัก ผมจะย้ำเตือนกับตัวเองว่าผมยังไปได้อีกขั้น ผมยังทำได้มากกว่านี้ และมีปาฏิหาริย์รออยู่อีกฝั่งของอาการหมดแรงนี้ครับ การจะใช้วิธีนี้ได้นั้นให้นึกถึงความมุ่งมั่นที่ออกมาจากเบื้องลึกของจิตใจ อะไรที่เป็นด้านบวก มีพลัง และมีต้นตอมาจากความรักความเมตตา แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการเรียกสติ ก็ให้ย้ำคำนั้นในหัวหรือตะโกนออกมาดังๆ เลยก็ยังได้ครับ
จำไว้ว่า ถึงคุณจะควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวไม่ได้ แต่คุณควบคุมการตอบสนองของตัวคุณได้ เทคนิคเหล่านี้อาจดูเรียบง่าย แต่เป็นความเรียบง่ายที่มีพลังอยู่ภายใน และในไม่ช้าคุณก็จะพบว่าตัวเองใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และต่อเนื่องเพื่อทำให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบันและมองชีวิตที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ในแง่บวก