สามัคคีรวมใจ: Eyekonz

ชุมชน

ทีมเด็กหญิงจากฟิลาเดลเฟียมาทวงคืนพื้นที่ในกีฬาลาครอส

อัพเดทล่าสุด: 21 ตุลาคม 2564
ใช้เวลาอ่าน 13 นาที

สามัคคีรวมใจ คือซีรีส์เกี่ยวกับทีมกีฬาและสโมสรที่ท้าทายวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ในปัจจุบัน

“ฉันคือขุมพลังที่เกินต้านทาน”

“ฉันคือจอมพลัง”

เด็กหญิง 30 คนยืนเรียงแถวตอนลึกอยู่หน้ากระจกเต็มตัวบานหนึ่งบนสนามที่ Mander Playground ในนอร์ธฟิลาเดลเฟีย แต่ละคนผลัดกันก้าวออกมายืนหน้ากระจก ขณะที่โค้ช Jazmine A. Smith (หรือโค้ช Jaz) ส่งเสริมให้แต่ละคน “มองตาตัวเอง” และพูดประโยคยืนยันความเป็นตัวเอง การฝึกซ้อมจะเริ่มไม่ได้จนกว่าพวกเขาจะทำแบบนี้

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

โค้ช Jazmine Smith และ Erin Mobley

นี่เป็นเทคนิคการเสริมสร้างความมั่นใจของ Eyekonz Sports ซึ่งเป็นลีกฟิลด์ฮอกกี้และลาครอสที่โค้ช Jaz ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหล่าเด็กสาวที่อยู่ในฟิลาเดลเฟีย และทำให้หญิงผิวสีเข้ามาเล่นกีฬาที่มีแต่คนขาวเป็นส่วนใหญ่กันมากขึ้น

ในช่วงเย็นวันธรรมดาอย่างวันนี้ ลมเย็นเฉียบที่พัดผ่านเป็นสัญญาณเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นเวลาที่โรงเรียนเปิดเทอมเช่นเดียวกัน แต่ในคราวที่เกิดโรคระบาดโควิด โอกาสเดียวที่เด็กๆ ส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้จะได้พบปะกันแบบตัวต่อตัวจึงเป็นการฝึกซ้อมเหล่านี้ เด็กหญิงอายุ 5 ถึง 18 ปีเริ่มวิ่งกันเป็นรอบ มีเหล่าพี่ๆ คอยนำ ส่วนน้องๆ จะอ้อยอิ่งตามอยู่ด้านหลังจนกว่าจะได้รับคำสั่งให้แบ่งเป็น 2 กลุ่มตามอายุ เมื่อเสียงพูดคุยสนุกสนานเริ่มดังขึ้น โค้ช Jaz ก็จะตัดบทสนทนา “ทักษะการฟังนั้นยังไง” เธอถามขึ้น และเด็กๆ จะตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “สำคัญต่อชีวิต”

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

โค้ช Jaz และทีม

ในฐานะอดีตผู้เล่นฟิลด์ฮอกกี้และลาครอสที่เติบโตมาในเมือง Smith ที่ตอนนี้อายุ 43 ปีเคยเป็นเด็กหญิงผิวดำเพียงคนเดียวในทีม หลังจากนั้นหลายปี เธอได้โค้ชให้ทีมท้องถิ่น แต่เธอกลับพบว่าความหลากหลายบนสนามแข่งก็ยังคงไม่ดีขึ้นจากเดิม “ฉันรู้สึกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยค่ะ” เธอกล่าว “มันไม่เข้าท่าเลย” ในปี 2019 มีนักกีฬาหญิงผิวสีเพียง 16 เปอร์เซ็นต์จากผู้เล่นลาครอสทั้งหมดใน Division I และในนั้นมีคนดำเพียง 2 เปอร์เซ็นต์

เหล่าพี่ๆ จะเริ่มการฝึกเครเดิลลิ่ง (Cradling) โดยจะวิ่งขณะที่มีลูกบอลอยู่ในตะกร้อบนไม้ สมาชิกจำนวนหนึ่งที่ยังเป็นมือใหม่ต่างก็จะพากันทำลูกบอลร่วงลงบนพื้นกระจัดกระจายไปทั่ว แต่ Nyobi Murphy วัย 15 ปีคนนี้จะวิ่งอย่างรวดเร็วไปมาขณะจับไม้อย่างมั่นใจ ใกล้ๆ กันมี Ayanna Reese อายุ 18 ปีในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่กำลังเตรียมอุปกรณ์สำหรับการฝึกของทีมรอบต่อไป หลังจากนั้น เมื่อเด็กๆ จับคู่กันฝึกตักลูกบอลจากพื้น Erin Mobley ในวัย 15 ปีจะวิ่งอยู่กับที่เคียงข้างผู้เล่นรุ่นน้อง และคอยให้กำลังใจเธอขณะพยายามอย่างหนักเพื่อแกว่งไกวไม้ Nyobi, Ayanna และ Erin คือเสาหลักของทีม เพราะทั้ง 3 คือตัวอย่างของเด็กผู้หญิงที่มีคุณสมบัติที่ Eyekonz ก่อตั้งขึ้นมาสนับสนุนอย่างครบครัน นั่นคือการทุ่มเทให้กับเกม กับทีม กับชุมชน และกับตัวของพวกเขาเอง

เราพูดคุยกันเรื่องความเป็นพี่สาวน้องสาว การประกาศยืนยัน และการก้าวข้ามอคติ

พบกับสมาชิกทีม

1/5
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

โค้ช Jazmine Smith
ผู้ที่เป็นนักกีฬามาตลอดชีวิตอย่างโค้ช Jaz ยืนกรานที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด “ฉันยึดมั่นในความเชื่อของตัวเองมากๆ ค่ะ ในด้านการส่งเสริมและความยุติธรรมทางชาติพันธุ์” ขณะที่ยังเป็นวัยรุ่น เธอรู้สึกกังวลกับการที่เชื้อชาติของกลุ่มผู้เล่นในกีฬาที่เธอรักนั้นเอนเอียงไปฝั่งเดียว เธอตรึกตรองอยู่นานหลายปีว่าจะพาเด็กหญิงผิวดำเข้ามาในโลกของลาครอสและฟิลด์ฮอกกี้มากขึ้นได้อย่างไร และเมื่อมี Eyekonz เธอก็แก้โจทย์นั้นได้พร้อมๆ กับคอยเตรียมความพร้อมให้สมาชิกทุกคนในทีมไปสู่ความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม “เราใช้กีฬาเป็นกลไกที่จะทำให้เด็กๆ พร้อมในด้านวิชาการค่ะ” เธออธิบาย “และยังช่วยให้เด็กๆ มั่นใจและเห็นคุณค่าในตัวเองด้วยค่ะ”

2/5
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Kai Coleman อายุ 17 ปี
“ตอนนั้นฉันไม่รู้ด้วยซ้ำค่ะว่าลาครอสคืออะไร” Kai กล่าวขณะนึกย้อนถึงความประหม่าตอนที่เธอมาร่วมฝึกซ้อมครั้งแรก “มีเด็กผู้หญิงเยอะมาก ทุกคนเก่งกันหมดเลยด้วย” เธอยกย่อง Eyekonz ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และเป็นช่องทางที่ช่วยให้เธอปลดปล่อยพลังงานลบออกมา “เราอาจจะเจอกับวันแย่ๆ แต่พอมาซ้อมลาครอส เราก็สร้างสิ่งที่เป็นแง่บวกได้ค่ะ” เธอกล่าว “เหมือนการซ้อมลาครอสทำให้สบายใจได้น่ะค่ะ”

3/5
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Nyobi Murphy อายุ 16 ปี
“การซ้อมกับโค้ช Jaz ครั้งแรกนับเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มากๆ เลยค่ะ” Nyobi กล่าว เธอเคยเป็นกองหลังของทีมโรงเรียน และเสริมว่า “ฉันไม่เคยโดนวิจารณ์เลยค่ะ ทุกครั้งจะเป็นแบบว่า ‘เก่งมาก ทำได้ดีมากเลย’ ส่วน [โค้ช Jaz] จะเป็นแบบ ‘เธอเล่นได้ดีนะ แต่ว่า…’ นั่นเป็นเหมือนอะไรใหม่ๆ สำหรับฉันค่ะ” สำหรับกองกลางสุดแกร่งในปัจจุบันอย่าง Nyobi เธอรู้สึกขอบคุณโค้ชที่ช่วยสอนให้ยอมรับและเรียนรู้จากคำวิจารณ์ “ฉันรู้สึกว่าโค้ชกำลังช่วยให้ฉันพร้อมสำหรับความยิ่งใหญ่ในอนาคตค่ะ” เธอกล่าว

4/5
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Keyla Jordan อายุ 15 ปี
เธอเป็นผู้สร้างความคึกคะนองให้สมาชิกทีมอยู่เป็นประจำ โค้ช Jaz อธิบาย Kayla ว่าเป็น “ศูนย์รวมความเฮฮาบ้าๆ บอๆ เธอทำตามหน้าที่ แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามทำให้ทุกอย่างไม่จริงจังจนเกินไป” โค้ช Jaz กล่าว “เธอเป็นคนที่สร้างสมดุลได้เป็นอย่างดีให้กับสาวๆ ค่ะ และมีจิตใจที่บริสุทธิ์อีกด้วย”

Anai’ya Baskerville อายุ 17 ปี
Rosalyn คุณแม่ผู้ล่วงลับของ Anai’ya พาลูกสาวมาร่วมกลุ่ม Eyekonz เมื่อเกือบๆ 4 ปีที่แล้ว “ตอนเด็กๆ ฉันเคยนั่งรถกับแม่และพี่น้อง คุณแม่จะมีเพลงเพื่อยืนยันว่า “ฉันคือใคร” ค่ะ” Anai’ya กล่าว “แต่ก่อนเราร้องเพลงนี้กันตลอดเลยค่ะ”

5/5
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Sophia Poole อายุ 15 ปี
Sophia รู้จัก Eyekonz เร็วกว่าสมาชิกส่วนใหญ่ เพราะเธอคือลูกสาวของโค้ช Jaz และเริ่มเล่นลาครอสมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ซึ่งชัดเจนว่าความมุ่งมั่นและแรงขับที่เธอมีเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดมาจากแม่ของเธอ “ฉันยังคงเรียนรู้วิธีฝึกซ้อมโดยที่เป็นหอบหืดอยู่ค่ะ” เธอกล่าว “เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนอย่างแน่นอน” กองกลางคนนี้ตั้งตาจับจองตำแหน่งในลาครอส D1 นับตั้งแต่อยู่ ป.6 และบอกว่ากีฬาสอนให้เธอสื่อสารได้ดีขึ้น “กีฬาทำให้ฉันแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ในอีกแบบค่ะ” เธอกล่าว

1/4
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Dayana Allen อายุ 16 ปี
“วางใจได้เลยค่ะว่าถ้าเธอได้ลูก เธอก็จะเล่นในแบบที่เหมาะสม” โค้ช Jaz พูดถึง Dayana ตำแหน่งกองหน้าหัวแข็งที่หวังว่าจะได้ไปสู่ Division I “เธอได้โอกาสที่ดีมากๆ ในการเป็นหัวหน้าชั้นยอดในสนามค่ะ” แต่การเตรียมความพร้อมให้เธอขึ้นเป็นผู้นำนั้นจำเป็นต้องใช้วินัยด้วย “ต้องผ่านความลำบากในการปรับตัวอยู่มากเพราะโมเดลนี้ไม่ได้เหมือนโปรแกรมกีฬาอื่นๆ เลย” โค้ช Jaz กล่าว “ซึ่งเธอก็เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่และเริ่มเข้าใจว่าความรักแบบเข้มงวดคืออะไรค่ะ”

2/4
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Naomi Green อายุ 16 ปี
เมื่อทบทวนกิจวัตรโปรดของทีม Naomi บอกว่าการประกาศยืนยัน “ฉันคือใคร” ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่เธอมีต่อตัวเองไป “ตอนที่ฉันรู้จักวิธีนี้เป็นครั้งแรก ฉันรู้สึกว่า ‘เอ แปลกจังที่ให้พูดกับตัวเอง’ แต่หลังจากนั้น ฉันก็เริ่มทำแบบนี้ที่บ้าน แล้วก็เริ่มเชื่อในสิ่งนี้ค่ะ”

Ayanna Reese อายุ 18 ปี
“เธอเป็นกาวที่เชื่อมทั้งทีมเข้าไว้ด้วยกันจริงๆ ค่ะ” โค้ช Jaz พูดถึง Ayanna ผู้รักษาประตูที่พูดจานุ่มนวลคนนี้เริ่มรู้จักกีฬานี้เป็นครั้งแรกไม่นานหลังจากที่โค้ช Jaz เจอเธอที่โรงเรียน และสนับสนุนให้ลองเล่นกีฬาประเภทนี้

3/4
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Erin Mobley อายุ 16 ปี
Erin มาร่วม Eyekonz หลังจากที่เธอได้รู้จักกับลาครอสในค่ายหลังเลิกเรียนสำหรับผู้เล่นระดับเริ่มต้น “เหมือนเป็นประสบการณ์อีกแบบเลยค่ะ พอเป็นโค้ช Jaz” เธอกล่าว “ฉันดีใจที่มาที่นี่เพราะฉันรู้สึกว่าได้เป็นตัวเอง ฉันรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นทุกๆ ฤดูกาลเลยค่ะ” Erin เป็นสมาชิกที่แอ็คทีฟตลอดเวลาทั้งในและนอกสนาม เธอเป็นสมาชิก Eyekonz Legal Coalition และช่วยจัดระเบียบขบวนของทีมที่สนับสนุนการเคลื่อนไหว Black Lives Matter ในช่วงหน้าร้อนปี 2020

4/4
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Naja Johnson อายุ 16 ปี
“พอมีผู้เล่นแต่ละคนแล้ว มันมีความหมายที่ลึกซึ้งมากยิ่งกว่าการลงสนามอีกค่ะ” โค้ช Jaz กล่าว “เด็กแต่ละคนมาพร้อมอะไรบางอย่างที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาประสบความสำเร็จในระดับใดระดับหนึ่งในสนาม” ในกรณีของ Naja โค้ชหลายๆ คนของเธอได้รู้ว่านักกีฬามากพรสวรรค์คนนี้มักจะต้องย้ายที่อยู่ไปตามระบบการดูแลแบบอุปถัมภ์ “ก่อนที่ฉันจะเข้าร่วม Eyekonz ฉันกำลังคิดว่าจะเลิกเล่นลาครอส แต่โค้ช Jaz เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันไปต่อค่ะ [Eyekonz] ช่วยฉันมากๆ เพราะบางครั้งคนเราก็ต้องการความช่วยเหลือและแรงใจค่ะ” สมาชิกใหม่คนนี้กล่าว

คุณบอกว่าเพื่อนร่วมทีมเป็นพี่น้อง คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไหม

Nyobi: เราทุกคนเหมือนกันหมดค่ะ เราทุกคนเป็นเด็กหญิงเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันที่รัก อยากเล่น และอยากเป็นมากกว่าแค่คนส่วนน้อยในกีฬาชนิดนี้ค่ะ โค้ช Jaz มักจะบอกว่าเวลาที่เราเล่นบนสนามแห่งนี้ เรากำลังสานต่อสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคยสร้างไว้ การบอกว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันทำให้เราทุกคนรู้สึกว่ามีรากเหง้ามาจากที่เดียวกัน และเราต้องร่วมมือกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ ค่ะ

“พวกเขาไม่ได้ปูทางไว้เพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่กำลังสอนผู้คนที่มีรูปลักษณ์ต่างออกไปว่ากีฬานี้ก็เป็นพื้นที่สำหรับเราด้วยค่ะ”

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Nyobi และ Nyla Numan

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Nyla และ Nyobi

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Nyobi และ Nyla Numan

จากซ้าย: Nyla และ Nyobi

คุณต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่ทีมและทำให้พวกเขารู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างไร

โค้ช Jaz: โปรแกรมของเรามีตลอดปีค่ะ แปลว่ามาเข้าร่วมได้ตลอดเวลาตามต้องการ เรามีระบบบัดดี้เพื่อให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เวลาที่คนมาร่วมทีมใหม่ๆ พวกเขามักจะออกจากทีมเพราะไม่รู้จักใครเลย แต่บัดดี้จะคอยสอนสิ่งต่างๆ และช่วยแนะนำ จากนั้นสมาชิกก็จะเริ่มเห็นภาพแล้วก็เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ค่ะ

Nyobi: Erin เราเคยเป็นบัดดี้กันใช่ไหมนะ

Erin: ฉันว่าฉันเคยเป็นบัดดี้กับทุกคนตรงนี้นะ

แล้ว Eyekonz มีกิจวัตรประจำทีมอย่างอื่นอีกไหม

ทุกคน: การประกาศยืนยันว่า “ฉันคือใคร”

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Dayana Allen

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Adriana Britt

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Dayana Allen

Adriana Britt

เล่าเรื่องการประกาศยืนยันว่า “ฉันคือใคร” ให้ฟังหน่อย

Nyobi: เป็นธรรมเนียมของเราในการเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองบนสนามค่ะ โค้ช Jaz จะถือกระจกบานยาวอันนี้ไว้ แล้วเราก็จะส่องดูตัวเอง ต้องจริงจังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วบอกตัวเองว่า "ฉัน (คือ) จุดจุดจุด” เราก็จะพูดได้ว่า ฉันแข็งแกร่ง ฉันสวย ฉันคือจอมพลัง ฉันคือขุมพลังที่เกินต้านทาน อันนั้นเป็นคำโปรดของโค้ช Jaz เลยค่ะ

ฉันสังเกตว่าเวลาที่คนใหม่ๆ ทำแบบนี้ ปกติแล้วพวกเขาจะมีปัญหาด้านความมั่นใจอยู่แล้ว และก็ยังไม่ชินกับการพูดแบบจริงจังกับตัวเอง โค้ช Jaz จะให้เรายืนตรงนั้น แล้วโค้ชจะรอจนกว่าเราจะสบตาตัวเอง โค้ชจะบอกว่า “เปลี่ยนท่า เปลี่ยนน้ำเสียงที่ใช้ ยืนอกผาย” เธอคอยดูแลให้เรามองตัวเองในแบบที่มั่นใจที่สุด และรู้ว่าเราเป็นนักกีฬารุ่นเยาว์ที่น่าทึ่ง และเราทำทุกอย่างได้ถ้าเราเชื่อว่าทำได้

การประกาศยืนยันว่า “ฉันคือใคร” ช่วยให้คุณมั่นใจและก้าวผ่านความท้าทายที่เจอทั้งในและนอกสนามได้อย่างไร

Nyobi: เราเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยในกีฬาชนิดนี้ค่ะ เราเลยต้องการความมั่นคงทางจิตใจเพื่อที่จะไปแข่งขันกับคนอื่นๆ ที่น่าจะเล่นกีฬานี้มาตั้งแต่เกิดได้

โค้ช Jaz:
ส่วนใหญ่แล้ว เราจะแข่งกับทีมที่เป็นคนขาวทั้งทีมค่ะ การก้าวข้ามอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นกีฬาชนิดนี้ พวกเขาไม่ได้ปูทางไว้เพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่กำลังสอนผู้คนที่มีรูปลักษณ์ต่างออกไปว่ากีฬานี้ก็เป็นพื้นที่สำหรับเราด้วยค่ะ

1/3
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Nyobi, Ayanna, Erin

2/3
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Ayanna Reese

3/3
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Nyobi และ Erin

การก้าวเดินบนสนามที่อยู่ในย่านของคนขาวเป็นอย่างไรบ้าง

Ayanna: บางครั้งพวกเขาก็ดีนะคะ แต่บางครั้งก็ไม่ ฉันว่าพวกเขาคงกลัวเพราะเราเล่นกันเก่ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ฉันเล่นเป็นผู้รักษาประตู ฉันบล็อกลูกของอีกฝั่งได้ แต่พ่อของผู้เล่นทีมนั้นก็โกรธเพราะทีมของลูกสาวกำลังตามหลัง

โค้ช Jaz: ฉันรู้มาตลอดค่ะว่าเมืองนี้ [ที่เราไปมา] เหยียดผิวมากๆ ตอนนั้น Ayanna น่าจะกันลูกได้เป็นลูกที่ 6 แล้ว ส่วนคุณพ่อคนนั้นก็เลือดขึ้นหน้าสุดๆ จนระเบิดออกมา เขาปาบางอย่างมาแล้วก็เริ่มวิ่งปรี่เข้ามาหาผู้เล่นของเราในสนาม กรรมการก็อยู่ตรงนั้นนะคะ แต่เขาแทบจะผลัก Ayanna แล้ว ฉันต้องเข้าไปในสนาม แล้วกรรมการก็บอกคุณพ่อคนนั้นว่า “ออกจากสนาม ไม่งั้นคงต้องเรียกตำรวจ” เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาก แต่เราก็ได้เรียนรู้จากตรงนี้ค่ะ

Ayanna: ฉันทั้งตกใจแล้วก็งงตลอดทั้งเหตุการณ์เลยค่ะ

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Vivian Saintil, Milan Smalls, Erin

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Vivian Saintil, Milan Smalls, Erin

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Vivian Saintil, Milan Smalls, Erin

จากซ้าย: Zorah Bradford, Millia Bonney, Nyobi, Sonia Diaz, Ayanna, Azeezah Jones

สมาชิกในทีมเป็นแรงผลักดันให้คุณอย่างไร

Nyobi: เราทุกคนรัก [กีฬานี้] ค่ะ นี่เป็นเวลาที่เรามาสังสรรค์กันจริงๆ เป็นเวลาที่เราได้นั่งลงแล้วพักหายใจ เวลาที่เราส่งลูก รับลูก เราจะพูดคุย ถามไถ่ คอยคุยกันว่าชีวิตแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง

Ayanna:
บางครั้งความกังวลก็เข้าครอบงำฉัน ฉันก็จะเริ่มคิดมากเกินไป แล้วก็ไม่มาซ้อมเลย เพื่อนในทีมช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ฉันค่ะ พวกเขาจะคอยบอกว่าฉันทำได้ ฉันเก่ง

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Kai, Tatiana Walker, Keyla, Erin และ Qadan Johnson

เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา Eyekonz เดินขบวนพาเหรดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว Black Lives Matter คุณได้ไอเดียนี้มาอย่างไร

Erin: เราอยากทำอะไรบางอย่างที่จะช่วยให้ผู้คนรู้เรื่องผู้หญิงผิวดำที่โดนตำรวจกระทำทารุณกรรมกันมากขึ้นค่ะ นี่เป็นไอเดียมาจากสมาชิกคนหนึ่งของ Eyekonz ตอนที่เราคอล Zoom กัน แล้วเราทุกคนก็มาคิดกันว่าจะทำออกมายังไง

“เราเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยในกีฬาชนิดนี้ค่ะ เราเลยต้องการความมั่นคงทางจิตใจเพื่อที่จะไปแข่งขันกับคนอื่นๆ ที่น่าจะเล่นกีฬานี้มาตั้งแต่เกิดได้”

Nyobi: โค้ช Jaz บอกว่า “เราทำได้ ทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกัน” แล้วพอมีพื้นฐานและแรงผลักดันอีกนิดหน่อย เราก็ทำมันออกมาได้ค่ะ ฉันรู้สึกว่าตรงนี้สร้างแรงบันดาลใจให้เราอย่างมหาศาล เพราะเรารู้สึกว่าเราทำให้ไอเดียกลายเป็นจริงได้ ถึงจะเป็นแค่ผู้หญิงชาวแอฟริกันอเมริกันตัวเล็กๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เห็น และเจ็บปวดที่เห็นการใช้กำลังเกินเหตุของตำรวจในโลกปัจจุบัน แต่การที่ไอเดียนี้กลายเป็นจริง และเราสามารถผลักดันไอเดียจนเกิดเป็นการร่วมมือกันของทุกคน เกิดเป็นการเดินขบวนที่ทุกคนจากทุกๆ ที่จดจำได้ ฉันรู้สึกว่า… พูดแล้วจะร้องไห้เลยค่ะ ฉันรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ สำหรับเรา

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

Erin Mobley

คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการจัดงานเดินขบวนนี้

Nyobi: เราทำในสิ่งที่เชื่อได้ทุกอย่างค่ะ ตราบใดที่เรามีไอเดีย และตั้งใจที่จะผลักดันไอเดีย และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ไอเดียนั้นเป็นจริง

ทีมของคุณปรับตัวอย่างไรเมื่อนายกเทศมนตรีปิดเมืองในช่วงปลายปี 2020

โค้ช Jaz: เรากลับไปออกกำลังกายผ่าน Zoom ซึ่งช่วยให้เด็กๆ ได้เจอกันค่ะ แต่โชคร้ายที่ Rosalyn ซึ่งเป็นคุณแม่ของ Anai’ya จากไปในช่วงนั้นเช่นกัน ฉันคุยกับเธอก่อนที่เธอจะเข้าห้อง ICU ซึ่งเป็นบทสนทนาที่ทำเอาใจหายที่สุดเลย เธอบอกว่า “โค้ชคะ อย่าลืมนะ ต้องช่วยให้ Anai’ya เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้นะคะ” ตอนนั้นเธอไออยู่ด้วย ฉันเองก็ตอบไปว่า “คุณแม่ทำใจสบายๆ ดูแลตัวเอง จะได้รู้สึกดีขึ้นนะคะ” แล้วไม่นานหลังจากนั้น เธอก็เข้าห้อง ICU ค่ะ ใจสลายจริงๆ ค่ะ

งานศพจัดขึ้น ฉันรู้ค่ะว่าเด็กๆ ไปร่วมงานด้วยไม่ได้ เราเลยตัดสินใจจัดขบวนพาเหรดข้างนอกโบสถ์เพื่อที่เด็กๆ จะได้ถือโปสเตอร์ได้ พอ Anai’ya, Cookie กับ Adriana ออกมาข้างนอกก็จะได้เห็นว่าเพื่อนๆ ในทีมก็มาคอยเป็นกำลังใจให้นะ

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Adriana และ Katelyn Britt

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Nyla และ Qadan

พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย
พบกับทีมลาครอสหญิง Eyekonz ของฟิลาเดลเฟีย

จากซ้าย: Adriana และ Katelyn Britt

จากซ้าย: Nyla และ Qadan

ตอนนี้ Adriana ในวัย 8 ขวบผ่านการฝึกลาครอสมาแล้ว 3 ปี เดิมทีเธอสนใจกีฬาชนิดนี้เพราะจะได้อยู่ใกล้ๆ พี่สาว แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าตัวเธอเองนั้นชอบอยู่บนสนาม “หนูชอบที่ได้ออกกำลังกายมากขึ้น ได้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพค่ะ” Adriana กล่าวขณะสาธยายถึงเหตุผลที่ทำให้เธอรัก Eyekonz “เป็นอะไรที่โค้ชคอยช่วยหนูค่ะ”

เหล่าพี่สาวน้องสาวกลับมาซ้อมและเดินหน้าพร้อมจุดประสงค์ของทีมที่รู้ดีว่าพวกเขาทำได้ทุกอย่างเมื่ออยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ระดับรัฐ หรือไปจนถึงการเดินขบวนเพื่อชีวิตของคนดำ

Smith คอยสอดส่องดูสนาม เธอกวักมือเรียกผู้เล่นวัยเยาว์ผมยาวสยายเหวี่ยงพันรอบหัวที่กำลังวิ่งเป็นรอบแบบไม่เต็มใจนัก Smith สั่งให้เธอมัดผมขึ้น แต่เด็กสาวกลับเถียง เพราะเธอไม่มียางมัดผมและเพิ่งทำผมเสร็จใหม่ๆ “ฟังนะ” Smith กล่าวขณะไปยืมยางมัดผมจากคนที่อยู่ริมสนามแล้วรวบผมหางม้าให้ “เธอเป็นนักกีฬา และนักกีฬาต้องเก็บผมไม่ให้ปรกหน้า” นี่คือการบังคับเพราะรัก เธอชี้ทางให้ผู้เล่นลาครอสตัวน้อยให้ไปสู่ทางที่เธอกำลังเดินอยู่ และบอกให้ตั้งใจวิ่งรอบสุดท้ายอย่างเต็มที่ ผู้เล่น Eyekonz ตั้งมาตรฐานไว้สูง และคอยผลักดันกันและกันเพื่อพิชิตมาตรฐานนี้

เรียบเรียงโดย Roxanne Fequiere
ภาพถ่ายโดย Laurel Golio, Gillian Laub
วิดีโอโดย Gillian Laub, Meerkat Media

เผยแพร่ครั้งแรก: 24 กันยายน 2564