ทำอย่างไรดีกับท่าทางที่ไม่เหมาะกับการตั้งครรภ์เท่าไหร่นัก
นี่ล่ะ Nike (M)
แม้ท้องคุณจะดูน่ารักสุดๆ ไปเลย แต่กลับทำให้ท่ายืนของคุณไม่สมดุลหรือเปล่า เข้ามาหาคำตอบได้เลยเพื่อที่อย่างน้อยจะได้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นอีกนิดในแต่ละวัน
- การเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้คุณอยู่ในท่าที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ โดยเฉพาะบริเวณช่วงหลังส่วนล่าง
- การยืนกางขา หลังแอ่น และไหล่ห่อล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณอาจจำเป็นต้องปรับท่าทางที่ทำอยู่เป็นประจำ
- การเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับช่วงแกนกลางลำตัวและลำตัวส่วนบนจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณอยู่ในท่าที่จะก่อให้เกิดปัญหาได้
อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้เลย
*เนื้อหานี้ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ แต่ไม่ใช่เพื่อการวินิจฉัย รักษา หรือให้คำแนะนำเฉพาะทางการแพทย์ จึงควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณอยู่เสมอเกี่ยวกับวิธีรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยทั้งก่อน ระหว่าง และหลังตั้งครรภ์
คุณคงเคยเห็นภาพทั่วไปของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ใช้กันเกลื่อนใช่ไหม ภาพที่คุณแม่ตั้งครรภ์คอยลูบช่วงหลังส่วนล่างของตัวเอง หน้าท้องยื่น หลังแอ่น และเข่าล็อค ในช่วงที่เพิ่งตั้งครรภ์ได้ใหม่ๆ คุณอาจคิดว่า โห เวอร์จัง แต่แล้วเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ความคิดคุณก็อาจเปลี่ยนไปเป็น ฉันรู้สึกแบบนี้เลย
ท่าทางการนั่งยืนที่เปลี่ยนไปในระหว่างตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะท้องที่กำลังโตนั้นทำให้จุดศูนย์ถ่วงของลำตัวเปลี่ยนไป อีกทั้งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติก็ส่งผลต่อลักษณะการเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน ปัญหาคือการขยับตัวบ่อยๆ ในท่าทางที่ไม่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มากนัก ดังเช่นท่าทางในภาพคุณแม่ทั่วไปดังที่กล่าวมา อาจก่อให้เกิดปัญหากวนใจได้ ปัญหาที่หนักที่สุดคือการทำให้ช่วงหลังส่วนล่างใช้แรงมากเกินไปโดยไม่จำเป็น Brianna Battles ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมสร้างความแข็งแรงที่ได้รับการรับรองในเมืองอีเกิล ไอดาโฮ และผู้ก่อตั้ง Pregnancy & Postpartum Athleticism กล่าว โดยผลที่จะตามมาในไม่ช้าคืออาการเจ็บและปวดมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาจทำให้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวได้ในอนาคต
"กล้ามเนื้อเพื่อการทรงท่าทุกมัดเผชิญกับความท้าทายเมื่อตั้งครรภ์" Laurel Proulx, DPT, PhD นักกายภาพบำบัดด้านสุขภาพกระดูกเชิงกรานที่เมืองโคโลราโดสปริงส์และผู้ก่อตั้ง FEM Physical Therapy กล่าว (กล้ามเนื้อเพื่อการทรงท่ามีหน้าที่ทำให้ร่างกายตั้งตรง เช่น แกนกลางลำตัว หลังส่วนบน และไหล่) กล้ามเนื้อมัดอื่นๆ จึงอาจต้องเข้ามาชดเชยอาการเกร็งตึงที่เพิ่มมากขึ้น โดย Proulx ชี้ว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณอาจสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างต่อไปนี้ในลักษณะท่าทางของคุณ โดยทั้งหมดนี้ล้วนสามารถทำให้เกิดความไม่สบายเนื้อสบายตัวได้
- ขากางเวลายืน (เท้าห่างกันมาก นิ้วเท้าชี้ออก) ท่าแบบนี้จะไปจำกัดไม่ให้สะโพกและลำตัวส่วนบนเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสม รวมถึงอาจส่งผลต่อลักษณะการแกว่งแขนตามปกติเมื่อเดินได้ด้วยเช่นกัน
- หลังแอ่นเพราะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวมีความเมื่อยล้าเนื่องจากต้องทำงานอย่างหนักในการยกซี่โครงให้อยู่เหนือกระดูกเชิงกราน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงปวดหลังส่วนล่าง
- ก้นกบเก็บเข้า ซึ่งก็คือลักษณะที่ตรงข้ามกับหลังแอ่น โดยจะเกิดขึ้นเมื่อพยายามชดเชยท้องที่หนักในลักษณะที่มากเกินไปด้วยการดันสะโพกไปด้านหลัง ทำให้อาจไปปิดกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานบริเวณด้านหลังได้จนทำให้หดและเกร็ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการเมื่อถึงเวลาคลอด
- ไหล่ห่อ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่กล้ามเนื้อทรวงอกเนื่องจากเต้านมขยายใหญ่ขึ้น (หากยืนปล่อยแขนข้างลำตัวแล้วสังเกตได้ว่าหลังมือหันไปทางด้านหน้า สะบักแผ่ออก หรือไหล่ดูเหมือนจะม้วนมาด้านหน้า แสดงว่าคุณมีอาการไหล่ห่อ) ลักษณะนี้เชื่อมโยงกับการปวดบริเวณหลังส่วนบนและคอ
ถึงเวลาปรับให้ตรงแล้ว
เมื่อรู้แล้วว่าต้องดูที่ตรงไหนบ้าง ให้พิจารณาไตร่ตรองถึงท่าทางธรรมชาติของคุณในปัจจุบัน Battles บอก แล้วคอยกลับมาทบทวนถึงท่าของคุณบ้างในแต่ละวันเพื่อดูว่ามีแนวโน้มตามที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณตระหนักถึงท่าการยืนที่คุณมักจะทำโดยไม่รู้ตัวเพื่อที่จะได้เริ่มต้นปรับท่าให้เหมาะสม
เมื่อกล่าวโดยรวม การปรับท่าจะช่วยลดอาการปวดลงได้และอาจช่วยลดการบาดเจ็บได้ Battles บอก โดยให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ปรับตามจำเป็น
เมื่อรู้สึกว่าซี่โครงยื่นออกมา หลังแอ่น และบั้นท้ายเกร็ง สิ่งที่ต้องทำคือพักหายใจแล้วเริ่มต้นใหม่ คุณอาจต้องปรับแก้ท่าดังต่อไปนี้ Proulx บอก อาจไม่ถึงกับต้องทำทั้งหมด สามารถปรับได้ตามจำเป็น
- หากยืนแล้วนิ้วโป้งเท้าชี้ออกจากกัน ให้หันเท้าให้นิ้วโป้งเท้าชี้ไปข้างหน้า เพื่อให้เท้าขนานกันมากขึ้น
- หากกระดูกเชิงกรานดันไปด้านหน้า ให้ดึงกลับมาเพื่อที่สะโพกจะได้อยู่ในตำแหน่งใต้ไหล่
- ม้วนไหล่กลับมาด้านหลังเพื่อให้ศอกอยู่หลังลำตัวและมืออยู่ข้างลำตัว โดยที่นิ้วโป้งมือหันไปด้านหน้า
2. เปลี่ยนท่าเลย
การค้างอยู่ในท่าเดิมแทบจะตลอดนั้นทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะปวดและไม่สบายตัว โดยเฉพาะที่ช่วงหลังส่วนล่าง Proulx บอก (การปวดหลังส่วนล่างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์กับผู้หญิงอย่างน้อยจำนวนครึ่งหนึ่งตามข้อมูลงานวิจัย และสามารถส่งผลต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นในการทำกิจกรรมทั่วไปในแต่ละวันได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้าได้) หากนั่งเยอะ ให้ลองพักด้วยการยืนหรือเดินดูบ้าง Proulx บอก แต่หากต้องยืนอยู่สักระยะหนึ่ง ก็อย่ายืนแข็งเป็นรูปปั้น ให้ลองค่อยๆ โยกย้ายส่ายสะโพกไปมาด้านข้างเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการตึง (ถ้ามีเพลงจังหวะสนุกๆ ด้วยจะช่วยได้มาก)
3. เสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อเพื่อการทรงท่า
ต้องยกนิ้วให้ช่วงหลังส่วนบนและแกนกลางลำตัวเลย ซึ่งช่วยรองรับคุณเมื่อเคลื่อนไหว ยืน และแม้แต่ในขณะนั่ง คุณสามารถเสริมความอึดให้สองส่วนนี้ได้ด้วยการเทรนนิ่งเสริมความแข็งแรงอย่างตรงจุด สำหรับช่วงหลังส่วนบน เริ่มด้วยการบริหารที่ต้องใช้การดึง เช่น ท่าพายเรือแบบก้มตัว Proulx บอก การบริหารร่างกายในส่วนนี้ยังมีข้อดีเพิ่มเติมด้วยเช่นกันซึ่งจะมีส่วนช่วยคุณหลังคลอด เมื่อลูกน้อยเปลี่ยนจากการแนบอยู่ข้างในตัวคุณมาเป็นแนบอยู่ข้างนอกตัวคุณ (เราขอบอกเลยว่าจะรู้สึกว่าลูกน้อยตัวหนักหลังอุ้มไปพักหนึ่ง)
ในด้านการเสริมสร้างความอึดและความแข็งแรงแกนกลางลำตัวนั้น Proulx ชื่นชอบการหิ้วเคตเทิลเบลล์ (เดินหิ้วเคตเทิลเบลล์ในมือข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง) และท่า Pallof press (ต้องค้นข้อมูลใน Google เพื่อดูวิธีบริหารที่ถูกต้อง โดยดูคำแนะนำจากเทรนเนอร์ที่มีใบรับรองหรือนักกายภาพบำบัด) ส่วนการเสริมความแข็งแรงช่วงสะโพกซึ่งอาจมีส่วนช่วยเรื่องความมั่นคงของกระดูกเชิงกรานด้วยนั้น ให้ผสมผสานท่าสะพานโค้งด้วยบั้นท้ายและท่าสควอทเข้าไปในการออกกำลังกายของคุณด้วย รวมถึงใช้ยางยืดออกกำลังกายประกอบเพื่อเพิ่มความท้าทาย
4. ซัพพอร์ตหน้าท้องมากขึ้นอีกนิด
แม้การเทรนนิ่งฝึกความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อเพื่อการทรงท่าจะช่วยคุณได้มาก แต่จะดียิ่งขึ้นหากแถมด้วยการใส่แถบรองรับหน้าท้อง (แต่ไม่ใช่สายรัดเอวออกกำลังกายนะ อย่าใส่ผิดล่ะ) หรือเลกกิ้งเอวสูงกระชับกล้ามเนื้อ (หาตัวที่ออกแบบมาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาใส่เพื่อความสบาย) เมื่อหน้าท้องของคุณเริ่มเมื่อยล้า ซึ่งแทบจะเลี่ยงไม่ได้เลยเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้ลำตัวคุณอยู่ตำแหน่งเหนือสะโพกได้ในระหว่างกิจกรรมประจำวันทั่วไป Proulx บอก
5. ใจดีกับตัวเอง
แม้จะตั้งใจทำให้ดีที่สุดแล้วในการสังเกตท่าทางที่ไม่เหมาะสมและปรับให้ดียิ่งขึ้น แต่บางครั้งคุณก็อาจยังรู้สึกปวดอยู่ ซึ่งก็ไม่เป็นไรเลย เพราะคุณกำลังตั้งครรภ์และร่างกายก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด "คุณอาจทำถูกทุกอย่างแต่ยังคงมีอาการและรู้สึกไม่สบายตัวได้" Battles บอก ยิ่งไปกว่านั้น การพยายามคงท่าให้กระดูกสันหลังเป็นกลางอยู่เสมอหรือรู้สึกละอายเวลาที่รู้ตัวว่าตัวเองยืน "ผิด" อาจไม่เป็นประโยชน์เท่าที่คิด เธอบอก ไม่จำเป็นต้องทำโทษตัวเองเลย สิ่งเหล่านี้บ่งบอกให้รู้ว่าท่าทางของคุณไม่เหมาะกับคุณสักเท่าไหร่ในตอนนี้ ซึ่งคุณอาจต้องหันกลับมาตระหนักและปรับเปลี่ยน
เราขอบอกว่านี่เป็นคำแนะนำที่ดีในการเป็นผู้ปกครองด้วยเช่นกัน
เรียบเรียงโดย Jessica Migala
ภาพถ่ายโดย Vivian Kim
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เข้าแอพ Nike Training Club เพื่อดูคำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายเพิ่มเติม รวมถึงการออกกำลังกายแบบมีเทรนเนอร์และมีผู้เชี่ยวชาญรับรอง ถ้าหากคุณพร้อมอวดโฉมท่ายืนใหม่แล้วล่ะก็ เลือกซื้อสินค้าล่าสุดจากคอลเลกชัน Nike (M) ได้เลย